สัญญลักษณ์รางวัล ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้ออกแบบ
รางวัลสาขาต่างๆ 4 สาขา
ประชุมงานรางวัล PM’s Creative Award
ก่อนอื่นขอกล่าวที่มาที่ไปของรางวัลนี้ก่อนครับ กระทรวงพาณิชย์โดยกรมทรัพย์ทางปัญญาได้ทำโครงการรางวัล PM’s Creative Award ซึ่งรางวัลนี้ ได้ขออนุญาตจากนายกรัฐมนตรี ในการใช้ชื่อรางวัลว่า PM’s Creative Award และได้เรียนเชิญนายกรัฐมนตรีให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณ( 4 เม.ย. 2554 นี้ ) ให้แก่ผู้สร้างสรรค์สินค้าและบริการดีเด่นของไทย ประจำปี 2554 เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ได้รับรางวัลและเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติผู้สร้างสรรค์ผลงานประเภทต่างๆ ในสาขาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้มีการสร้างสรรค์ผลงานเพิ่มขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยอย่างยั่งยืน(เขาว่าอย่างนั้น)
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
วันแถลงข่าว “PM’s Creative Award” ครั้งแรกของเมืองไทย
สื่อมวลชนจากหลายๆที่
รางวัล PM‘s Creative Award นอกจากจะกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงความสำคัญของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเป้าหมายของรัฐบาลภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งพ.ศ.2555 แล้ว ยังคาดหวังให้ทุกภาคส่วนของสังคมไทยได้มีความเข้าใจและให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ การคุ้มครอง และการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นระบบและครบวงจร ว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการแข่งขันทางเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน และจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาประเทศ
บรรยากาศวันเปิดตัวและแถลงข่าว
ซึ่งชื่อรางวัลในแต่ละสาขาว่า เป็นครั้งแรกที่นามของบุคคลสำคัญของเมืองไทย 4 ท่าน ผู้ซึ่งมีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับในแต่ละสาขา และเป็นที่เคารพรักของคนไทย ได้มาปรากฎเป็นชื่อรางวัล ทั้งนี้ ทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้รับเกียรติและได้รับอนุญาตจากเจ้าของนามและผู้แทนของเจ้าของนาม ให้นำ ชื่อท่านปูชนียบุคคลทั้ง 4 ท่านมาใช้เป็นชื่อรางวัล แยกตามแขนงสาขาต่างๆ 4 สาขา ได้แก่
1. รางวัล นริศรานุวัดติวงศ์ คือ รางวัลดีเด่นในสาขางานสร้างสรรค์ตามลักษณะงาน ได้แก่ งานออกแบบ แฟชั่น โฆษณา สถาปัตยกรรม ซอฟต์แวร์
2. รางวัล คึกฤทธิ์ ปราโมช คือ รางวัลดีเด่นในสาขาสื่อ ได้แก่ การพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์ การ กระจายเสียง ภาพยนตร์วีดิทัศน์ ดนตรี
3. รางวัล เฟื้อ หริพิทักษ์ คือ รางวัลดีเด่นในสาขาศิลปะ ได้แก่ ทัศนศิลป์ และศิลปะการแสดง
4. รางวัล อังคาร กัลยาณพงศ์ คือ รางวัลดีเด่นในการสืบทอดทางวัฒนธรรม ได้แก่ งานหัตถกรรม การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การแพทย์แผนไทย อาหารไทย
รางวัล PM’s Creative Award ยังได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากหลายภาคส่วน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีความรู้ และมีความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขาที่จะพิจารณาให้คะแนน อีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากสังคมในวงกว้าง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกว่า 50 ท่าน จาก 15 สาขา มาร่วมพิจารณาตัดสิน ได้แก่ ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ ศ.ปรีชา เถาทอง รศ.ดร.เสรี วงษ์มณฑา นายนิธิ สถาปิตานนท์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ทางโครงการยังได้รับเกียรติจากท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ มาเป็นผู้ออกแบบสัญญลักษณ์และโล่รางวัล PM’s Creative Award อีกด้วย
ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ
หลักเกณฑ์ในการตัดสินผลงานสร้างสรรค์ทั้ง 4 สาขา จะใช้กรอบในการพิจารณาด้านความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ที่มีความเป็นไทยชัดเจน (Thainess) มีการสอดแทรกวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญา หรืออื่นๆ และเป็นผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งเกิดจากการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ (Originality & Innovation) สามารถสร้างมูลค่าในเชิงธุรกิจ (Business Value) และเป็นที่ยอมรับในสังคม (Popularity) โดยได้รับการยอมรับในวงกว้างมาแล้วในระยะเวลา ไม่น้อยกว่า 1 ปี อนึ่ง ผลงานสร้างสรรค์ที่ได้รับการคัดเลือกจะมีการจัดแสดงนิทรรศการ และประกาศเกียรติคุณในวันพิธีมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณอีกด้วย
เล่าทีมาที่ไปแล้วก็ขอบอกตรงๆเลยว่าไม่รู้เรื่องรางวัล PM’s Creative Award อะไรนี่เลย ก็เคยได้ยินผ่านๆ แต่ไม่เข้าใจและไม่สนใจ จนใกล้ๆปิดรับสมัครคนใกล้ๆตัวเลยบอกให้ลองส่งไปประกวดดู เลยไปโหลดใบสมัครมาลองกรอกดูแทบหงายท้อง คือความไม่ชัดเจนความไม่เข้าใจความซ้ำซ้อนที่ทางโครงการวางกฎเอาไว้ดูจริงจังจนแทบถอดใจ ถ้ากรณีที่คนส่งเป็นตัวบุคคล ไม่ใช่รูปแบบบริษัทที่มีหน่วยงานเฉพาะมีแผนกประชาสัมพันธ์ต่างหากโดยเฉพาะสาขา รางวัล เฟื้อ หริพิทักษ์ รางวัลดีเด่นในสาขาศิลปะ คือเข้าอกใจเข้าใจเลยว่ามันวุ่นวายสำหรับคนทำงานศิลปะ ที่เคยส่งประกวดงานศิลปกรรมแห่งชาติฯลฯไม่เห็นมีเอกสารอะไรมากมาย คือหนึ่งซ้ำซ้อน สองคนทำงานศิลปะกับเรื่องธุรกิจมันสวนทางกันอยู่ สามความไม่ชัดเจนของสาขาที่ประกวด คืองานศิลปะที่สร้างขึ้นจากฝีมือควรจะแยกออกจากศิลปะการแสดง นึกไม่ออกจริงๆ พอประกาศผลผู้เข้ารอบไปพรีเซ็นต์งานโอ้! กลายเป็นมดแข่งกับช้าง(เพิ่งจะไปดูสยามนิรมิตสองสามวันก่อนพอรู้ผลว่าคู่แข่งของเราอ้าว!...สยามนิรมิตนี่เอง) รู้แล้วว่าเราคนทำงานศิลปะตัวเล็กๆที่แค่ทำงานขึ้นมาเพื่อไปพิมพ์เป็นหนังสือ,ภาพประกอบหนังสือนิทานสำหรับเด็กๆ ต้องแข่งกับ โรงละครที่ใหญ่ที่สุดในโลก สยามนิรมิต, ละครแม่นาคพระโขนง The Musical ,งานจิตรกรรมชุด "ชำระกิเลส" และยังมีละครเวทีน้องๆยักษ์อีกหนึ่งคณะละครเวที ใจยักษ์ ถึงนึกออกแล้วว่าศิลปะการแสดงที่แข่งด้วยศักยภาพขนาดนี้นี่เอง ดีว่ายังมีงานศิลปะของรุ่นน้องคณะจิตรกรรมฯศิลปากรหลุดเข้ามาอีกคน แต่ขนาดงานของเราก็เล็กกว่ารุ่นน้องหลายเท่าอยู่ดี
อีกสาขาที่ส่งคือ สาขาสื่อ รางวัล คึกฤทธิ์ ปราโมช ตกรอบเรียบร้อยจะไปสู้รายการ "คุณพระช่วย" ยังไงไหวก็ที่ส่งไป เป็นหนังสือนิทานเล่มเล็กๆ "พระในบ้าน" มดกับช้างอยู่ดี ส่วนสาขาศิลปะ รางวัล เฟื้อ หริพิทักษ์ งานที่ส่งประกวดเป็นงานศิลปะที่ปรับให้นำมาใช้เป็นงานภาพประกอบหนัง คือตั้งใจนำไปเสนอสำนักพิมพ์ ชุด "มหาเวสสันดร" ทั้งหมด 12 ภาพ
บางส่วนของงานศิลปะชุด "มหาเวสสันดร" 1
บางส่วนของงานศิลปะชุด "มหาเวสสันดร" 2
โดยแรงบันดาลใจที่สร้างสรรค์ผลงานทั้ง 12 ภาพชุดนี้ มาจากความต้องการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงหยิบเรื่องราวของทศชาติชาดก ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในชาติที่สิบ มาสร้างสรรค์เป็นผลงานชิ้นใหม่ เพื่อเผยแพร่แนวความคิดให้คนไทยได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ในหลวงของเราทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจยาวนานนับแต่ครองราชย์ ทรงเหน็ดเหนื่อยพระวรกาย เสียสละความสุขส่วนพระองค์ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้อยู่อย่างเป็นสุข ซึ่งตรงกับเรื่องราวของพระเวสสันดร ที่ทรงบำเพ็ญทศบารมี เสียสละทุกอย่างโดยไม่หวังผลตอบแทน เพื่อประกอบทานบารมีอันยิ่งใหญ่ให้ประชาชนได้เป็นสุข จึงเป็นที่มาและแรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์ผลงานชุดนี้
บางส่วนของงานศิลปะชุด "มหาเวสสันดร" 3
บางส่วนของงานศิลปะชุด "มหาเวสสันดร" 4
หลักเกณฑ์ที่ตัดสินคงสู้ไม่ได้ในเรื่องการสร้างมูลค่าในเชิงธุรกิจ (Business Value) ที่เล่ามาทั้งหมด ไม่ได้เสียอกเสียใจ อะไรเลยครับ ดีใจครับดีใจมากด้วย ดีใจที่ฝ่าฟันหลุดเข้ารอบเหลือแค่ 5 ชิ้นงาน แล้วภูมิใจมากครับที่งานศิลปะเล็กๆ(ที่จริงไม่อยากเรียนว่างานศิลปะเพราะยังไม่ถึงขั้นนั้น เลยเลี่ยงไปใช้คำว่าศิลปะประยุกย์แต่คณะกรรมการติงว่าอย่าไปลดคุณค่าของงานลง เพราะงานเสร็จสมบรูณ์มีคุณค่าอยู่ในตัวงานอยู่แล้ว)ที่ต้องการนำมาทำเป็นภาพประกอบหนังสือให้เด็กๆ หรือหนังสือผู้ใหญ่ ได้รับเกียรติจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่คัดเลือกยังเห็นคุณค่าของงาน ถึงไม่ยิ่งใหญ่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจอะไรมากมาย แต่ก็นับว่าได้นำเอาภูมิปัญญาของงานจิตรกรรมไทย มาสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ นำมาต่อยอดทางความคิดจนเป็นผลงานออกมาจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าในเชิงธุรกิจหรือไม่ ไม่เคยคิดถึงเป็นสิ่งแรกสิ่งทำสำคัญคือได้ถ่ายทอดสิ่งที่อยากทำออกมาให้ดีที่สุด ก็ถือว่างานศิลปะชุด "มหาเวสสันดร" นี้ สำเร็จสมความตั้งใจของผู้ทำแล้วครับ
บางส่วนของงานศิลปะชุด "มหาเวสสันดร" 5
จริงๆกรมทรัพย์สินฯประกาศผลเป็นการภายในตั้งแต่ 3 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมาแล้ว ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะทั้ง 4 สาขา เพราะทั้งหมดก็คือคนไทยที่ช่วยๆกันสร้างช่วยกันนำเอาวัฒนธรรมไทยไปแข่งขันไปเผยในเวทีโลกและพัฒนารูปแบบให้ดียิ่งขึ้น ของเราไม่แพ้ใครในโลกอยู่แล้วครับ ขอบคุณกรมทรัพย์สินทางปัญญากระทรวงพาณิชย์ ที่เห็นคุณค่าของผู้สร้างสรรค์งานศิลปวัฒนธรรม ที่มอบรางวัลนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ ผู้สร้างสรรค์ที่นำภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตได้อย่างมั่นคงต่อไป
รางวัลชนะเลิศเฟื้อ หริพิทักษ์ สาขาทัศนศิลป์ สยามนิรมิต และรางวัลดีเด่นละครเวที นางนาค เดอะมิวสิคคัล,ละครเวที ใจยักษ์,จิตรกรรม "ชำระกิเลส" และศิลปะประยุกต์"มหาเวสสันดร" ทั้งสี่รางวัล
*** กรมทรัพย์สินทางปัญญา จะจัดพิธีมอบรางวัล "PM's Creative Award " ประจำปื 2553 ให้แก่ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศและมอบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ได้รับราวัลดีเด่นทั้ง 4 สาขา ในวันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2554 เวลา 12.30 - 15.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลทั้งนี้ภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการจัดนิทรรศการแสดงผลงานของผู้ที่ได้รับรางวัลด้วยครับ
ขอบคุณ ภาพวันแถลงข่าวจาก Facebook PM's Creative Award กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น