Powered By Blogger

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ภาพวาดหายไป! ที่บ้านศิลปิน










บ้านศิลปิน วันเปิดตัว 19 ก.ย. 2552





            เหตุเกิดที่ "บ้านศิลปิน"  จรัญสนิทวงศ์ ซอย 3 เมื่อต้นเดือน กันยายน 2552 ย้อนกลับไปอาทิตย์ กว่าๆก่อนที่จะเปิดตัวบ้านศิลปิน บังเอิญได้เจอ พี่โกะ ชุมพล อักพันธานนท์ รุ่นพี่ที่คณะจิตรกรรมฯ  เล่าเรื่องโครงการอนุรักษ์ชุมชนคลองบางหลวง ได้รับการติดต่อให้มาช่วยกันดูแลบ้านหลังนี้ เลยชวนให้มาวันเปิดตัวบ้านศิลปินวันที่ 19 กันยายน ให้เอารูปวาดมาวางโชว์สร้างบรรยากาศด้วย













สองภาพนี้ที่หายไป




          เลยรีบวาดภาพให้ทันวันงาน แทบไม่ได้นอน ถึงวันงานก็หิ้วมาแขวนติดไว้ที่นี่แล้วฝากงานไว้สักระยะหนึ่ง ก็ติดตามดูอยู่ครั้งสุดท้ายไปยังเห็นอยู่ แต่หลังจากนั้นน่าจะสี่ห้าเดือนจะกลับไปเอางานคืนปรากฏว่าไม่อยู่ซะแล้วให้คนที่เฝ้าเช็คดู ก็ยังหาไม่เจอรออยู่ครึ่งวันก็ไม่ได้ความสุดท้ายก็ต้องทำใจไม่รู้ว่าใครหิ้วหนีไปซะแล้ว แต่รุ่นพี่ ช.ศ.สตูฯข้างๆ ”บ้านศิลปิน” ให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นคนที่เฝ้าคนดูแลบ้านศิลปินก่อนหน้านี้ คงจะเป็นคนเอาไปเพราะพี่เขาอยู่ห้องติดกันใครผ่านไปมาจะเห็นอยู่ตลอด แล้วพี่เขายังเห็นงานสองชิ้นนี้ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะอันตธานไป






ใครที่มาครั้งแรกๆจะเห็นสองภาพนี้แขวนอยู่















           เล่าความมาทั้งหมดแค่อยากบอกคนที่ได้งานสองชิ้นนี้ไป คนที่แอบเอาภาพสองชิ้นนี้ไปขาย หรือเปลี่ยนชื่อเป็นผลงานของตัวเอง ใครซื้อไปหรือใครไปเห็นภาพทั้งสองชิ้นนี้ที่ไหน เจ้าของผลงานตัวจริงอยู่ที่นี่เป็นคนวาดงานทั้งสองชิ้นนี้แค่นั้นเอง ไม่รู้จะไปตามมือใครดมที่ไหน ไม่อยากไปเสียเวลาอะไรเอามาลงให้รู้กันที่นี่ก็พอแล้วครับ






                         ------------------------------------------------------------------------------

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วิทยาลัยช่างศิลป เปิดอบรมศิลปะสำหรับบุคคลภายนอก ประจำปี 2555














           ด่วน! โครงการอบรมศิลปะสำหรับบุคคลภายนอก ประจำปี 2555  
ของวิทยาลัยช่างศิลป  สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม  
ได้เปิดอบรมศิลปะสำหรับผู้ที่สนใจทางด้านศิลปะสาขาต่างๆ ประจำปี 2555 แล้วครับ











หลักสูตรที่เปิดอบรม

·       จิตรกรรมสีน้ำ หุ่นนิ่งและภาพทิวทัศน์  จำนวน  15 คน

·       จิตรกรรมสีน้ำมัน หุ่นนิ่งและภาพทิวทัศน์  จำนวน 15 คน

·       ภาพพิมพ์ ซิลสกรีน  จำนวน  15 คน

·       จิตรกรรมไทย  ลายรดน้ำ  จำนวน  15 คน

·       เครื่องเคลือบดินเผา การขึ้นรูปด้วยมือ   จำนวน  15 คน

·       ทฤษฎีศิลปะ วาดเส้น ทฤษฎีสี องค์ประกอบศิลป์ จำนวน  15 คน








วันและเวลาฝึกอบรม

     ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม -  11 สิงหาคม 2555 

     เฉพาะวันเสาร์  เวลา 9.00 – 16.00 น.

สถานที่ฝึกอบรม  วิทยาลัยช่างศิลป ถ.ฉลองกรุง ลาดกระบัง กรุงเทพฯ

วันและเวลารับสมัคร  วันที่ 21-25พฤษภาคม เวลา 9.00 – 15.00 น.

                                    ณ ห้องธุรการวิทยาลัยช่างศิลป

คุณสมบัติผู้สมัคร

      บุคคลทั่วไป อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี

หลักฐานการสมัคร

       รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป

       สำเนาบัตรประชาชน บัตรข้าราชการ หรือบัตรนักศึกษา

       ค่าลงทะเบียน 3,500 บาท     

สนใจติต่อ ได้เลยตามนี้
ปฐมนิเทศ วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม 2555
*สอบถามรายละเอียด โทร 023264002 – 5

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

“ทุ่งสลับสี” เริ่มต้นวาดภาพประกอบครั้งแรกที่เล่มนี้














            ปี 2537 ยังทำงานประจำอยู่ ด้วยความอยากลองทำภาพประกอบหนังสือ ซึ่งงานช่วงนั้นสามารถหาเวลาทำงานนอกได้เลยลองหอบเอางานที่วาดเล่นๆไว้กับงานเรียน ไปเสนอสำนักพิมพ์ดอกหญ้า ตอนนั้นยังอยู่ฝั่งตรงข้ามพาต้า ปิ่นเกล้า

           ก็ไม่นึกว่าจะได้งานหรอก แต่ก็ได้คำตอบด้วยการที่สำนักพิมพ์ได้ให้โอกาสวาดภาพประกอบหนังสือเล่มแรกและครั้งแรกในชีวิต นั่นคือเรื่อง “ทุ่งสลับสี”  ของ อโศก ศรีสุวรรณ  เป็นวรรณกรรมเยาวชน นักเขียนน่ะมีชื่อเสียง แต่คนวาดโนเนมมือใหม่ จำได้ว่าคนที่รับเรื่องประสานงานชื่อ “ป้อง” ไม่รู้ชื่อจริง ไม่นานก็ออกไป คนที่รับเรื่องต่อ คือพี่ตี๋ พี่จิตติ หนูสุข ตอนนั้น มีสองคนที่ผลัดกันดูแลหนังสือของดอกหญ้า อีกคนคือ พี่รักษ์ มนัญญา แต่ช่วงแรกๆติดต่อกับพี่ตี๋ตลอด






















           พอได้รับงานก็ดีใจ ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องราวว่าขั้นตอนการวาดภาพประกอบเป็นอย่างไร ภาพวาดต้องสื่อสารกับเรื่องราวเนื้อหายังไง ไม่มีทฤษฎีอะไรเลย รู้แต่หาภาพมาวาดให้เข้ากับเรื่อง เลยกลายเป็น “ภาพประกอบ” จริงๆคือเอารูปมาประกอบแต่ไม่สื่อสารไปกับเรื่อง เช่นในเรื่องพูดถึงนกแร้งก็หาภาพนกแร้งมาวาดให้ดูดี แต่เรื่องราวบรรยากาศ ตัวละคร ไม่เป็นไปตามเรื่องเลย (อย่างที่เอาตัวอย่างมาลงให้ดู) ก็เป็นแบบนี้ทั้งเล่ม แต่ก็ได้คลอดออกมาเป็นรูปร่าง ตีพิมพ์ครั้งแรก ปี 2537 ด้วยความที่เรื่องดี นักเขียนก็เก่ง เลยโชคดีไปด้วย เพราะหนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลชมเชยงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ปี 2538 จำได้เลยว่าสมัยนั้นยังจัดงานอยู่ที่คุรุสภา และน่าจะเป็นปีท้ายๆแล้วล่ะมั้งที่เริ่มจะย้ายไปจัดงานที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพราจำได้ว่าตอนนั้นมีแบบสำรวจความคิดเห็นว่าจะย้ายไปจัดที่ศูนย์ฯ ตอนนั้นเชียร์เต็มที่เลย เพราะที่คุรุสภาเล็กเกินไปแล้ว และอีกอย่างคืออากาศร้อนมาก ย้ายไปจัดที่ศูนย์ประชุมฯถึงไกลกว่าแต่เดินในห้องแอร์มันน่าจะดีกว่า ออกนอกเรื่องไปไกลเลย ได้มีโอกาสสัมผัสพิธีรับรางวัลที่คุรุสภาครั้งแรกและครั้งสุดท้าย เพราะอีกประมาณสี่ปีได้ก็ย้ายแล้ว
























            ทุ่งสลับสี เป็นเรื่องราวของเด็กๆทางเหนือใช้ชีวิตกลางท้องทุ่งที่ยังมีความเป็นธรรมชาติ ได้ใช้ชีวิตอยู่กับป่าไม้สิงสาราสัตว์ ได้เรียนรู้ชีวิตในป่าในท้องทุ่ง เด็กๆ อย่าง เจิด บาง เหนี่ยม ปอ พี่อโศก คนเขียนได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่สนุกสนานสดใส หลากหลายสีสันของเด็กๆวัยทะโมนในท่องทุ่งกว้าง ผสมผสานกับการผจญภัยแฝงการอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่อ่านแล้วมีความสุขสบายใจเหมาะกับเยาวชนจริงๆครับ
           หลังจากเริ่มต้นวาดภาพประกอบหนังสือเล่มนี้เป็นครั้งแรก ก็ได้รับโอกาสเล่มต่อๆมา จนกระทั่ง เกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งประวัตศาสตร์ชาติไทย “โรคต้มยำกุ้ง” ระบาดกระเทือนไปค่อนโลก ไม่เฉพาะแค่ “ดอกหญ้า” บริษัทอะไรๆก็ล้มระเนระนาดไปหมด “ดอกหญ้า” กลายเป็นดอกอะไรก็ไม่รู้แล้ว ต้องย้ายสำนักพิมพ์ สองครั้งแล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น สำนักพิมพ์ “ดับเบิ้ลนายน์ พริ้นติ้ง” โดยหัวเรือใหญ่สองคนคือ พี่ตี๋ พี่จิตติ หนูสุข กับ พี่รักษ์ มนัญญา

           
           แล้วโอกาสที่ ทุ่งสลับสี จะได้พิมพ์ครั้งที่สองก็มาถึง คราวนี้ตั้งใจมากขอโอกาสแก้ตัววาดใหม่ให้ดีกว่าเดิม จนสำเร็จออกมาแล้วส่งให้บก.เตรียมพิมพ์ จะเห็นอิทธิพลงานของพี่ เตรียม ชาชุมพร อยู่ในงานเป็นส่วนใหญ่เลย






                       ภาพหน้าปก "ทุ่งสลับสี" ที่จะรอพิมพ์ครั้งที่ 2 ไม่มีโอกาสอวดโฉมอีกแล้ว






                                            "บทเรียนจากเจ้านกแร้ง" ตอนแรกเลย






                                         "บทเรียนจากเจ้านกแร้ง" ตอนแรกเช่นกัน





                                                             ตอน "ไก่ป่า"







                                                           "นักล่าแห่งราตรี"












                                                                "ธนูไฟ"






                                                           นี่ก็ตอน "ธนูไฟ"












                                                  อยู่ในตอน "ปลาที่ไม่ใช่ปลา"






                                          อยู่ในตอน "ปลาที่ไม่ใช่ปลา" เหมือนกัน








                                              "รางวัลจากวัด" ตอนท้ายของเรื่อง






                                                    "รางวัลจากวัด" เหมือนกัน









ภาพนี้จบแบบหนังเลย เอาบรรยากาศร่ำลา





           แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้พิมพ์เพราะพิษเศรษฐกิจยังตามหลอกหลอนจนในที่สุดก็ไม่ได้พิมพ์ สำนักพิมพ์ ดับเบิ้ลนายน์ ก็ต้องปิดฉากลงอีกครั้งด้วยความเสียดายมาก ต้นฉบับภาพวาดทั้งหมดทุกเล่มอยู่กับ พี่ตี๋ จิตติ หนูสุข ทั้งหมดยังไม่ได้รับคืนเลยสักชิ้น เพราะฉะนั้นภาพที่เอามาลงให้ดูทั้งหมดจึงเป็นภาพสำเนาที่เก็บไว้ แถมยังโดนน้ำท่วมซะอีกสภาพก็เลยไม่น่าดูเท่าที่เห็นนี่แหล่ะ ยังดีที่ยังไม่เละจนหมดสภาพ ยังเหลือเก็บเป็นความทรงจำเอาไว้บ้าง ถือเป็นประวัติศาสาตร์สำหรับตังเองที่ต้องบันทึกเอาไว้ ณ ที่นี้



วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

NANMEE ART WORKSHOP หอมดอกไม้ ไอความสุข

 
 
 
 
 










               มาอีกแล้วครับ   NANMEE ART WORKSHOP  นานมี ได้เปิด  เวิร์คชอปของบริษัท นานมี จำกัด อบรมสีน้ำคราวนี้มาในหัวข้อ ”หอมดอกไม้  ไอความสุข” กับอ. อิงอร หอมสุวรรณ์   ภายใต้บรรยากาศ ดอกดมชมดอกไม้ได้สุขใจในสีน้ำ เริงเล่นให้ชุ่มฉ่ำกับสีน้ำให้สุขใจ เหลืองส้มและแสดแดงม่วงมาแซมเขียวตัดใบ หลากสีเติมแต่งไปแล้วทำใจให้เบิกบาน
           อ.อิงอร จบพยาบาล จากมหาวิทยาลัยมหิดล ทำงานพยาบาลในห้องผ่าตัดมานาน 15 ปี  แล้วหันมาวาดภาพเพราะใจรักเป็นทุนเดิม  นอกจากนั้นยังได้แรงเสริมและการเรียนรู้จากสามี ซึ่งเป็นสถาปนิก  ได้เดินทางไปหลายแห่งทั่วโลก โดยเฉพาะที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา















                                                             ผลงานของ อ. อิงอร หอมสุวรรณ์ 


              อ.อิงอร ได้ไปศึกษาการวาดภาพอย่างจริงจัง ในหลักสูตรพิเศษของวิทยาลัยช่างศิลป์  ได้คลุกคลี เรียนรู้กับศิลปินอาวุโส แต่ในการเขียนภาพสามารถเอาความเด่นของศิลปินแต่ละคน มาเป็นการสร้างงานอันเป็นเฉพาะของตัวเองซึ่งเป็นเรื่องที่ยาก"  นอกจากการทำงานศิลปะ และเปิดสถาบันการวาดรูปตามคำร้องขอ ของผู้ชื่นชมในผลงาน ชื่อ อิง-กา สตูดิโอ แล้ว อิงอรยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการช่วยงานการกุศลมากมาย
            อ. อิงอรเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จทางศิลปะคนหนึ่ง  โดยไม่ต้องเรียนทางศิลปะมาโดยตรง มีผลงานดีเด่น เรียกได้ว่าเป็นศิลปินหญิงแนวหน้าคนหนึ่งของเมืองไทยในขณะนี้  ภาพของอิงอรซึ่งส่วนใหญ่วาดดอกไม้ จะ มีสีสัน จิตวิญญาณ เย็น นิ่ง เป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม และสดเหมือนเป็นดอกไม้จริงๆ










           อ.อิงอร ศิลปินหญิง ที่เรียนศิลปะมาด้วยตนเอง ไม่ผ่านสถาบัน จึงถือว่าพิเศษจริงๆ ที่ทำได้ขนาดนี้ เป็นสิ่งที่บอกได้ว่า การทำงานศิลปะ ไม่จำเป็นต้องเรียนตามระบบเสมอไป
            อ.อิงอร เล่าว่า อยากเป็นกำลังใจให้กับคนที่รักศิลปะ และทำงานนี้ด้วยใจรัก
"เราเองอยากเข้าเรียนศิลปากร แต่คุณพ่ออยากให้เรียนในสิ่งที่เหมาะสมกับผู้หญิงเขาเรียนกัน แต่ก็ไม่ได้ทิ้งงานที่รัก"








ผลงานสองชิ้นนี้ฝีมืออ.อิงอร น่าจะร่วมแสดงงานนิทรรศการ"มหัศจรรย์กล้วยไม้แห่งอัครนารี เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบรมราชินีนาถ" บริเวณ ลิฟวิ่ง แกลอรี่ ชั้น 3 สยามพารากอน เปิดนิทรรศการวันที่ 2 มิถุนายน 2555 เวลา 18.30 น. จัดแสดงนิทรรศการวันที่ 1-10 มิถุนายน 2555  


            อ.อิงอร เล่าว่า ภาพวาดดอกไม้ของเธอมักจะวาดจากของจริง  ไม่ได้คิดหรือจินตนาการเอาเอง ถ้าต้องการวาดกุหลาบก็ต้องซื้อกุหลาบมาเป็นแบบ  หรือดอกไม้หลายชนิด การศึกษาดอกไม้แต่ละชนิด อาจจะต้องศึกษาหนังสือกันเป็นเล่ม และตัวอย่างดอกไม้มักดูถึงขนาดดึงกลีบออกมาเพื่อหาสีที่ซ่อนอยู่ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าตกใจว่า จะพบสิ่งและสีที่เราไม่เคยเห็นอีกมากมายซ่อนอยู่ แต่เมื่อมาเขียนภาพก็จะใส่สีที่ตัวเองคิดลงไปในภาพด้วย
          "ตอนหลังที่ไปเรียนหลักสูตรพิเศษ นี้ขึ้น เกี่ยวกับฝึกวาดภาพต้องใช้ความอดทน จำได้ว่าร้อนมาก  ก็ต้องทนเอา วาดครั้งแรกใช้ไม่ค่อยได้ก็ต้องทน การทำงานศิลปะต้องรักและชอบก่อน  เพราะเป็นงานที่ฝึกด้วยมือเรา เท่านั้น ต้องทำบ่อยๆ  สวยไม่สวยก็ต้องวาดทุกวัน ขยันและใจรักหรือชอบก็ยิ่งดี  มีคนต่างชาติที่ไม่ต้องผ่านการเรียนศิลปะจากสถาบันเป็นระบบที่ประสบความสำเร็จก็มีมากมายอย่างแวนโก๊ะ ก็อยากเป็นกำลังใจสำหรับคนที่ต้องการมาวาดภาพ"  อ. อิงอรเล่า  นอกจากจะวาดภาพแล้ว ทุกวันนี้ อิงอรยังได้รับเชิญไปสอนศิลปะที่ มหาวิทยาลัยศิลปากร และอีกหลายสถาบัน ..

            แค่ประวัติก็น่าสนใจน่าติดตามแล้ว อยากวาดภาพสีน้ำเก่งๆสนใจอบรมกิจกรรมและอยากเข้าร่วมโครงการนี้ดาวน์โหล​ดใบสมัครได้ที่ www.nanmee.com  ได้เลยครับ







                              
                                     บรรยายกาศบ้าน อ.อิงอร ที่จังหวัดเชียงใหม่

                  ................................................................................................................




สนับสนุนโดย สีวิจิตรรงค์